วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ข้อมูลที่เก็บได้จากวันแสดงผลงาน + reflection

คะแนนที่น้องได้จากการโยนลูกบอล
     -ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 80 - 190 กว่าคะแนน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุของน้องๆ และความแม่นยำในการปาด้วย 

การตอบคำถาม
     -หลังจากน้องเล่นเกมเสร็จ ก่อนแจกของรางวัลและสติ้กเกอร์จะมีถามคำถามเพื่อทบทวนความรู้ของน้องๆ ไปด้วย คำถามที่ถามจะถามวนไปวนมา เช่น กรุ๊ปโอสามารถให้กรุ๊ปอะไรได้บ้าง กรุ๊ปอะไรที่รับได้ทุกกรุ๊ปเลย แล้วกรุ๊ปเอให้อะไรได้บ้าง กรุ๊ปบีรับอะไรได้บ้าง เป็นต้น
ในจำนวนเด็ก 30 คนที่เราได้ถาม มีความถูกต้องแม่นยำคิดเป็นร้อยละ 73.33 เด็กที่ตอบคำถามอยู่ในช่วงอายุประมาณ 5-15 ปี 
     -จากการตอบคำถามพบว่า เด็กที่อายุมากกว่าจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีกว่า อาจจะเป็นเพราะเนื้อหาของเรายากเกินไปสำหรับเด็กเล็ก หรือเด็กปฐมวัย ดังนั้นเด็กที่จะเริ่มเข้าใจจริงๆ จะอยู่ในช่วงอายุ 8 ปีขึ้นไป

การวัดความพึงพอใจของชิ้นงานของเรา
     -วิธีการวัดมี 2 วิธี คือ ให้ปั๊มแสตมป์ มี 3 ระดับคือ ดี ปานกลาง(พอใช้) ปรับปรุง
     -ถ้าเป็นผู้ปกครอง หรือเด็กที่โตแล้ว อ่านออกเขียนได้ จะให้เขียนโพสอิท
  



มี 4 ข้อให้น้องให้คะแนน มี ความสนุก ระยะเวลาเหมาะสม เข้าใจได้ง่าย และ ความชอบ
จากที่ให้น้องๆ ปั๊มให้คะแนน ได้ผลมาดังนี้
     -แท่งสีฟ้า แดง ส้ม แสดงถึงความพึงพอใจระดับ ดี ปานกลาง ปรับปรุง ตามลำดับ
     -เห็นได้ชัดว่า ในส่วนของเนื้อหาที่ต้องทำความเข้าใจนั้น ยังต้องปรับปรุงอีกมาก แต่ในเรื่องความ entertain (ความสนุก ความชอบ) เด็กๆค่อนข้างพึงพอใจมาก เรื่องระยะเวลานั้น อาจจะต้องมีปรับให้เลือกเวลาได้ เป็นต้น
หมายเหตุ: คะแนนรวมแต่ละข้อไม่เท่ากัน เนื่องจากน้องบางคนปั๊มไม่ครบทุกข้อ







     -โพสอิทนี้เป็นส่วนที่ให้ผู้ปกครองของน้องๆ หรือเด็กที่ค่อนข้างโตแล้ว รวมถึงรุ่นพี่บางส่วนเขียน comment ตู้เกมนี้ให้

ในส่วนของข้อมูลที่ได้จากการสังเกต พบว่า
    -เด็กๆ ส่วนใหญ่ที่เข้าใจเนื้อหา จะมีช่วงอายุ 8 ปีขึ้นไป
    -เด็กเล็กๆ ช่วง 3-4 ปี จะไม่ค่อยเข้าใจเนื้อหานัก จะเข้าใจแค่ต้องโยนยังไงถึงจะได้คะแนน หรือไม่ก็จะโยนแค่ลูกบอลสีเหลือง(แทนกรุ๊ปโอ) อย่างเดียว เนื่องจากสามารถโยนใส่ได้ทุกหลุม แต่ก็ไม่ได้เข้าใจถึงเรื่องกรุ๊ปเลือด
     -เด็กที่โตกว่า 3-4 ปีบางคนก็ยังเลือกโยนแค่ลูกบอลสีเหลือง เพื่อเก็บแต้มให้ได้เยอะๆ
     -เนื้อหา content จริงๆ ของกลุ่มเรายังเข้าใจได้ยากเกินไป เพราะเราทำสำหรับเด็กที่ค่อนข้างโตแล้ว แต่ตู้เกมของเรามีเด็กเล็กๆ 3-4 ปีมาเล่นเยอะ ทำให้น้องๆ ไม่เข้าใจ
     -เด็กๆ สนุกกับการโยนลูกบอล น้องๆ ส่วนใหญ่บอกว่าโยนสนุกมาก ชอบ
     -เด็กๆ บางคนเห็นเครื่องปิดอยู่(ตอนพัก) ก็ยังอยากเล่นอยู่ คือโยนอย่างเดียวก็สนุกแล้ว

สรุปผลข้อมูลที่เก็บ (โดยภาพรวม)
     จากที่ไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ พบว่า เด็กๆ ที่มาพิพิธภัณฑ์ มีหลายช่วงอายุ เนื้อหาที่เลือกทำจะเหมาะกับเด็กที่ค่อนข้างโตแล้วคือ 8 ปีขึ้นไป ดังนั้นในส่วนของเนื้อหา ถ้าปรับปรุงให้เข้ากับเด็กเล็กได้มากขึ้นก็น่าจะทำให้น้องๆ ได้เข้าใจมากขึ้น
     ในเรื่องของป้ายที่ใช้ประกอบยังมีบางส่วนที่ยังอธิบายได้ไม่ละเอียดมาก อีกทั้งยังสูงเกินความสูงเด็กๆ โดยเฉลี่ยไปเยอะ ทำให้น้องๆ อ่านไม่เห็น หรือเด็กบางคนยังอ่านหนังสือไม่ได้ก็จะไม่อ่าน จะดูรูปอย่างเดียว แต่รูปเราไม่ได้เชื่อมโยงกัน อาจจะทำให้น้องๆ งงได้
     ในส่วนของลักษณะ วิธีการเล่น ที่ต้องโยนลูกบอลได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ จากน้องๆ เพราะเด็กๆ ชอบมาก บางคนมาเล่นหลายรอบ บางคนไม่ต้องเปิดเครื่องก็อยากเล่นแล้ว

สรุปผลสิ่งที่ได้เรียนรู้
     จากการทำ inventor studio project ในครั้งนี้ ได้ทำสิ่งใหม่ๆ หลายอย่าง และทุกอย่างที่ทำได้นำไปใช้กับ user จริงๆ ไม่ใช่แค่ส่งงาน ได้คะแนนแล้วก็จบไป ได้พัฒนาตนเองหลายๆ เรื่อง เช่นการปรับตัวทำงานร่วมกับผู้อื่น การเข้าหาคนที่ต่างช่วงอายุกับเรา ทั้งเด็กและผู้ใหญ่กว่า ฝึกความรับผิดชอบ ฝึกจินตนาการในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้กับ user 
     ได้บูรณาการความรู้หลายวิชาเข้าด้วยกัน คือใช้วิชา structure design 1 ในการออกแบบโครงสร้างหลักของตู้เกม (ส่วน mechanism) และใช้ความรู้จากวิชา circuit, programming, digital ในการทำให้ตู้เกมของเราสามารถเล่นเกมได้
     จากครึ่งเทอมแรกที่ได้เรียนวิธีการทำงาน การออกแบบชิ้นงานที่เป็นขั้นตอน วิธีที่ได้เรียนนั้นสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ทำให้เรารู้ความต้องการของ user จริงๆ หรือแม้กระทั่งนำไปปรับใช้กับตนเอง เพื่อให้ทราบความต้องการที่แท้จริงของตนก็ยังได้
      




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น